Home
Blog

“อัลไซเมอร์” แค่หลงลืมธรรมดาหรือภาวะสมองเสื่อม

“อัลไซเมอร์” แค่หลงลืมธรรมดาหรือภาวะสมองเสื่อม!

โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s Disease) ไม่ใช่เพียงแค่การหลงลืมตามวัย แต่เป็นโรคทางระบบประสาทที่ร้ายแรงและส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้ป่วยและคนรอบข้างอย่างลึกซึ้ง โรคนี้ค่อยๆ ทำลายเซลล์สมอง ทำให้ความทรงจำ ความคิด การใช้เหตุผล และพฤติกรรมเสื่อมถอยลงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งผู้ป่วยไม่สามารถดูแลตนเองและจดจำคนที่รักได้ในที่สุด

แม้ว่าสาเหตุที่แท้จริงของอัลไซเมอร์ยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างสมบูรณ์ แต่การศึกษาพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดขึ้นในสมองของผู้ป่วย

  • การสะสมของโปรตีนผิดปกติ สารสำคัญสองชนิดที่พบมากในสมองของผู้ป่วยอัลไซเมอร์คือ อะไมลอยด์ เบต้า (Amyloid Beta) ซึ่งรวมตัวกันเป็นแผ่นเหนียว (Plaques) นอกเซลล์ประสาท และ โปรตีนเทา (Tau) ที่บิดตัวเป็นเส้นใย (Tangles) ภายในเซลล์ประสาท การสะสมของโปรตีนเหล่านี้ขัดขวางการสื่อสารระหว่างเซลล์สมองและทำลายโครงสร้างภายในเซลล์
  • การสูญเสียการเชื่อมต่อระหว่างเซลล์ประสาท (Synaptic Loss)  เมื่อเซลล์สมองถูกทำลาย การเชื่อมต่อระหว่างเซลล์ประสาทก็จะลดลง ทำให้การส่งสัญญาณในสมองมีประสิทธิภาพน้อยลง
  • การหดตัวของสมอง (Brain Atrophy) ในระยะท้ายของโรค สมองจะเริ่มหดตัวลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในบริเวณที่เกี่ยวข้องกับความจำและการเรียนรู้ เช่น ฮิปโปแคมปัส (Hippocampus) และสมองส่วนนอก (Cortex)
  • ความไม่สมดุลของสารสื่อประสาท ระดับของสารเคมีที่ใช้ในการสื่อสารระหว่างเซลล์สมอง (สารสื่อประสาท) เช่น อะซีติลโคลีน (Acetylcholine) มักจะลดลงในผู้ป่วยอัลไซเมอร์

 

ใครคือกลุ่มเสี่ยง

ปัจจัยหลายประการสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้แก่:

  • อายุ: ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่ออายุมากขึ้น โดยเฉพาะหลังอายุ 65 ปี
  • ประวัติครอบครัว: หากมีญาติสายตรง (พ่อ แม่ พี่ น้อง) เป็นโรคอัลไซเมอร์ ความเสี่ยงจะสูงขึ้น
  • พันธุกรรม: การมียีนบางชนิด เช่น APOE-e4 มีความสัมพันธ์กับการเพิ่มความเสี่ยง
  • ภาวะสุขภาพ: โรคบางชนิด เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และการบาดเจ็บที่ศีรษะซ้ำๆ อาจเพิ่มความเสี่ยง
  • ปัจจัยด้านไลฟ์สไตล์: การไม่ออกกำลังกาย การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป และการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมน้อย อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง

สัญญาณเตือนภัย อาการของโรคอัลไซเมอร์

อาการของโรคอัลไซเมอร์จะค่อยๆ พัฒนาและรุนแรงขึ้นตามระยะของโรค สัญญาณเตือนที่ควรสังเกต ได้แก่:

  • ปัญหาความจำที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน: ลืมข้อมูลที่เพิ่งได้รับ ลืมนัดหมาย หรือถามคำถามซ้ำๆ
  • ความยากลำบากในการวางแผนหรือแก้ปัญหา: ใช้เวลานานขึ้นในการทำสิ่งที่เคยทำได้ง่าย
  • มีปัญหาในการทำกิจกรรมที่คุ้นเคย: เช่น การทำอาหาร การขับรถ หรือการจัดการการเงิน
  • สับสนเกี่ยวกับเวลาและสถานที่: หลงลืมวัน เดือน ปี หรือไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน
  • มีปัญหาในการเข้าใจภาพและการจัดระเบียบพื้นที่: ยากในการอ่าน การกะระยะ หรือการแยกแยะสี
  • มีปัญหาในการใช้ภาษา: นึกคำพูดไม่ออก ใช้คำที่ไม่ถูกต้อง หรือพูดไม่เป็นประโยค
  • วางสิ่งของผิดที่และจำไม่ได้: เก็บของในที่ที่ไม่สมเหตุสมผลและลืมว่าเก็บไว้ที่ไหน
  • การตัดสินใจแย่ลง: ตัดสินใจผิดพลาดในเรื่องต่างๆ
  • ถอนตัวจากกิจกรรมทางสังคม: เลิกสนใจงานอดิเรกหรือการเข้าสังคม
  • อารมณ์และบุคลิกภาพเปลี่ยนแปลง: หงุดหงิดง่าย วิตกกังวล ซึมเศร้า หรือหวาดระแวง

 

การวินิจฉัย

การวินิจฉัยโรคอัลไซเมอร์มักต้องอาศัยการประเมินอย่างละเอียดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งอาจรวมถึง

  • การซักประวัติและการตรวจร่างกาย  สอบถามอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
  • การตรวจทางระบบประสาท  ประเมินการทำงานของสมอง เช่น ความจำ ภาษา การรับรู้ และการเคลื่อนไหว
  • การทดสอบทางจิตวิทยา (Neuropsychological Tests)  ประเมินความสามารถทางสติปัญญาต่างๆ
  • การตรวจทางภาพถ่ายสมอง  เช่น MRI หรือ CT Scan เพื่อดูโครงสร้างสมองและสาเหตุอื่นๆ
  • การตรวจเลือด  เพื่อตรวจหาภาวะสุขภาพอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อความจำ
  • การตรวจน้ำไขสันหลัง (ในบางกรณี)  เพื่อวัดระดับโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับอัลไซเมอร์

 

การรักษาและการดูแล 

ประคับประคองและชะลอความเสื่อมปัจจุบัน ยังไม่มีวิธีรักษาโรคอัลไซเมอร์ให้หายขาด การรักษามุ่งเน้นไปที่

  • การใช้ยา  ยาบางชนิด เช่น Cholinesterase Inhibitors และ Memantine สามารถช่วยบรรเทาอาการทางสติปัญญาและพฤติกรรมได้ในระยะหนึ่ง
  • การบำบัดที่ไม่ใช้ยา กิจกรรมต่างๆ เช่น การกระตุ้นความรู้ความเข้าใจ (Cognitive Stimulation Therapy), การบำบัดด้วยศิลปะ ดนตรี หรือสัตว์เลี้ยง อาจช่วยส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของผู้ป่วย
  • การดูแลแบบประคับประคอง  การให้ความช่วยเหลือในการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน การดูแลด้านโภชนาการ และการป้องกันอุบัติเหตุ
  • การสนับสนุนผู้ดูแล การให้ข้อมูล การฝึกอบรม และการสนับสนุนทางอารมณ์แก่ผู้ดูแลเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

 

การอยู่ร่วมกับอัลไซเมอร์ 

โรคอัลไซเมอร์เป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ ไม่เพียงแต่สำหรับผู้ป่วยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงครอบครัวและผู้ดูแล การสร้างความเข้าใจ การให้ความเห็นอกเห็นใจ และการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง เป็นสิ่งสำคัญในการช่วยให้ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ การเข้าถึงแหล่งข้อมูลและการสนับสนุนต่างๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ดูแลในการรับมือกับความยากลำบากในการดูแลผู้ป่วย

โรคอัลไซเมอร์อาจเป็นเส้นทางที่ยากลำบาก แต่ด้วยความรัก ความเข้าใจ และการดูแลที่เหมาะสม เราสามารถร่วมเดินทางไปกับผู้ป่วยและสร้างช่วงเวลาที่มีความหมายได้ แม้ในวันที่ความทรงจำเริ่มเลือนรางก็ตาม

 

ติดต่อนัดหมาย

โรงพยาบาลซานเปาโลหัวหิน

แผนกผู้ป่วยนอก 

โทร. 032-532576-80