มะเร็งเต้านม  : ภัยร้ายใกล้ตัวหญิงไทย

        มะเร็งเต้านม เป็นโรคที่ผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์เป็นต้นไปควรมั่นตรวจเช็คร่างกาย เนื่องจากเต้านม เป็นอวัยวะที่อยู่บนกล้ามเนื้อหน้าอกและซี่โครง  ประกอบไปด้วย ต่อมน้ำนม ท่อน้ำนม ไขมัน เส้นเลือดและ ต่อมน้ำเหลือง โดยทำหน้าที่ในการสร้างน้ำนมและทำงานสัมพันธ์กับฮอร์โมนเอสโตรเจน ที่ผลิตจากรังไข่ ซึ่งการเกิดมะเร็งเต้านมนั้น จะเกิดจากการแบ่งตัวที่ผิดปกติของเซลล์บริเวณเต้านม ทำให้เกิดเนื้องอก ถ้าไม่ได้รับการรักษา มะเร็งอาจโตขึ้นและกระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้ หรืออาจแพร่ไปยังอวัยวะอื่นได้ ดังนั้น หญิงในวัยเจริญพันธ์ที่มีปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ อายุ 40 ปีขึ้นไป, วัยหมดประจำเดือน หรือผู้ที่ต้องรับประทานฮอร์โมนทดแทน, หรือมีญาติสายตรงเป็นมะเร็งเต้านม/ รังไข่  หรือ มีอาการผิดปกติ เช่น คลำพบก้อนที่เต้านม, คลำพบต่อมน้ำเหลืองใต้รักแร้ หรือพบความผิดปกติของหัวนม เช่นมีการดึงรั้ง หรือมีสิ่งคัดหลั่งไหลออกมา ควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเร็ว เพื่อที่จะได้รับการรักษาที่เหมาะสม  ซึ่งการรักษาในปัจจุบัน มีทั้งการผ่าตัด, การฉายแสง และการรักษาด้วยยา ซึ่งในปัจจุบัน มีวิทยาการรักษาใหม่ๆ และทันสมัยมากมาย ทำให้โอกาสในการรักษาหายมีสูงขึ้น

         อย่างไรก็ดี แม้มะเร็งเต้านมจะเป็นโรคที่พบได้บ่อย แต่หากตรวจพบเร็ว จะทำให้รักษาอย่างถูกวิธีได้เร็ว และลดการกระจายไปอวัยวะอื่น  ซึ่งหญิงไทย ควรหมั่นตรวจคัดกรองเต้านมอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยการตรวจคัดกรองนั้น สถาบันมะเร็งแห่งชาติแนะนำให้ตรวจตามแนวทางดังนี้

1. คลำเต้านมด้วยตนเอง ควรคลำรายเดือน ตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป ในเวลาที่เหมาะ คือ หลังหมดประจำเดือน 2-3 วัน
2. ตรวจเต้านมโดยแพทย์/ ผู้เชี่ยวชาญ แนะนำตรวจปีละ 1 ครั้ง ในหญิงที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป+
3. ตรวจเต้านมด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ ได้แก่ การอัลตราซาวน์เต้านม : ไม่มีการบีบเต้านม จะไม่รู้สึกเจ็บ และการตรวจด้วยแมมโมแกรม ที่มีการบีบเต้านมด้วยเครื่อง อาจรู้สึกเจ็บบ้าง แต่การตรวจด้วยวิธีนี้มีความไวมากกว่าการคลำหรืออัลตราซาวด์ ซึ่งมีความแม่นยำสูง สามารถตรวจพบก้อนมะเร็งขนาดเล็กๆ ได้